ควีนส์ทาวน์ – คู่มือนักชิม

ควีนส์ทาวน์ – คู่มือนักชิม

ภูเขาสูงตระหง่าน ป่าฝนอันเขียวชอุ่ม และทะเลสาบระยิบระยับของควีนส์ทาวน์ ดึงดูดทั้งคนที่รักธรรมชาติ และผู้นิยมความตื่นเต้นจากทั่วโลกมานานหลายทศวรรษ

แต่สิ่งที่คนยังไม่ค่อยรู้จักคือ การรับประทานอาหารในควีนส์ทาวน์ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยกว่า 100 ร้านอาหาร ที่ให้บริการอาหารทะเลสดใหม่ และ เนื้อแกะฉ่ำนุ่มที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เมืองนี้ยังเป็นแม่เหล็ก ดึงดูดนักเดินทางที่ชอบลิ้มลองอาหารรสเลิศอีกด้วย

เหตุผลง่ายๆ ทั้งเชฟท้องถิ่นและ ต่างชาติ ต่างก็มีชื่อเสียงด้วยไหวพริบและความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาร่วมด้วยสุดยอดวัตถุดิบจากความอุดมสมบูรณ์ของผลิตผลจากผืนดินอันมั่งคั่ง และ ท้องทะเลอันอุดมสมบูรณ์ของประเทศนิวซีแลนด์

เช่นเดียวกับที่นักชิมท้องถิ่นจะบอกคุณ ผลผลิตจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาคและ ฤดูกาล หญ้าฝรั่งที่มีกลิ่นหอมต้องมาจากอ่าวฮอว์ค ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ปลาบลูคอด ก็ต้องมาจากทางใต้สุด รวมทั้งเป็ด และ เนื้อกวาง ส่วนเนื้อแกะ ที่ใครๆก็บอกว่าดีที่สุดในโลก จะต้องมาจากทางเหนือเท่านั้น

การเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลก็มีความสำคัญ เทศกาลหอยเชลล์จะเริ่มต้นในเดือนตุลาคม ไปจนถึง 31 มีนาคม หอยนางรมที่ดีที่สุดจะมีขายในช่วงเดือนมีนาคม จนกระทั่งหนึ่งล้านตัวถูขายออกไป ซึ่งโดยปกติก็จะมีไปจนถึงช่วงปลายเดือนสิงหาคม เนื้อแกะ จะยังอ่อนนุ่มในฤดูใบไม้ผลิ สมบูรณ์แบบสำหรับการปรุงอาหารให้สุกอย่างรวดเร็ว หรือ การย่าง และ ชิ้นจะใหญ่กว่าในฤดูหนาว เมื่อเชฟต้องการที่จะ ปรุงให้สุกแบบช้าๆ

ด้วยส่วนผสม วัตถุดิบและเครื่องปรุงชั้นเลิศเช่นนี้ แล้วร้านอาหารจะไม่ดีได้อย่างไร

เริ่มต้นที่ไหนดี 

ไม่ต้องไปไหนไกล ในเมื่อเรามี Seasons Restaurant and Bar ในอนันตรา เวเคชั่น คลับ ณ โอ๊คส์ ชอร์ส!

เมื่อมาถึงคุณจะได้เพลิดเพลินกับเมนูตามสั่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและภูมิภาค นอกจากนี้คุณยังจะได้พบกับอาหารนานาชาติ พิซซ่า เมนูของเด็กและตบท้ายด้วยของหวาน เลือกสรรค์เครื่องดื่มคู่กับอาหารรสเลิศจากบาร์ และยังสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนในเลานจ์รับไออุ่นจากเตาผิง

ลัดเลาะ ออกมาข้างนอก คุณจะพบว่าในตัวเมืองควีนส์ทาวน์เต็มไปด้วย ร้านอาหารมากมายที่ให้บริการทั้งอาหารนานาชาติ และ อาหารท้องถิ่น ทางเลือกของร้านอาหาร และ คาเฟ่มีมากมายจนนับไม่ถ้วน แต่เราจะนำเสนอเฉพาะสุดยอดร้านอาหารแนะนำที่ทั้งคนในพื้นที่และลูกค้าประจำต่างก็พูดถึง

สำหรับคืนพิเศษลองแวะไปร้าน Wai Waterfront Restaurant and Bar ที่นี่สามารถมองเห็นทะเลสาบวาคาติปู ร้าน Wai (เป็นภาษาเมารีแปลว่า น้ำ) รับประกันความอร่อยด้วยรางวัลจากนิตยสารเกี่ยวกับอาหารมากมาย จานเด็ดของร้านนี้คือาหารทะเล แต่ที่นี่ยังมีซีกโครงกวาง หมูป่า เป็ดสูตรพิเศษ รวมถึงสุดยอดเนื้อแกะจากนิวซีแลนด์ และแม้กระทั่งเมนูอาหารของเด็กๆ

ถ้าอยากจะลองเบอร์เกอร์แสนอร่อยล่ะก็ ที่นี่เลย Ferburger ในตัวเมืองควีนซ์ทาวน์ คนท้องถิ่นกล่าวว่า ถ้าออกไปจากเมืองโดยที่ยังไม่ได้แวะมาชิมเบอร์เกอร์ที่นี่ ถือว่าเป็นความผิดอย่างร้ายแรง แฮมเบอร์เกอร์แบบดั้งเดิมของพวกเขาจะทำให้คุณอิ่มไปตลอดทั้งวัน แต่สำหรับสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์และบ่งบอกความเป็นนิวซีแลนด์ ต้องลองชิม Codfather เบอร์เกอร์ปลาที่ทำจากเนื้อปลาบลูคอดสสดจากทะเลใต้

หากคุณ กำลังมองหา แหล่งรวมช็อคโกแลตแสนอร่อย ลองไปที่ Patagonia Chocolates เมนูที่นี่มีตั้งแต่ช็อคโกแลต (มากมายหลายชนิด ทั้งช็อคโกแลตนม, ดาร์คช็อคโกแลต, ไวท์ช็อคโกแลต และ แบบปราศจากน้ำตาล) ไอศครีมแสนอร่อย ของหวานรสเยี่ยมมากมาย เช่น ปาท่องโก๋สเปน เครป วัฟเฟิล และเค้กนานาชนิด รวมถึงฟองดู และ ช็อคโกแลตร้อนด้วย

ที่นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่สถานที่ที่มี ฟรี WiFi ในควีนส์ทาวน์ คุณสามารถเลือกนั่งที่โต๊ะไม้ด้านนอกที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบ และ เพลิดเพลินกับการมองดูเรือแล่นผ่านไปมา

สุดท้าย ตลาด Mediterranean Market ที่นี่ขายผลิตภัณฑ์จากในเอเชีย และอาหารท้องถิ่นมากมาย เมื่อคุณต้องการที่จะปรุงอาหารที่บ้านหรือเตรียมตะกร้าปิกนิกของคุณเอง

ทัวร์ชิมไวน์

เมืองควีนส์ทาวน์และบริเวณแถบนี้ยังนับเป็นแหล่งผลิตไวน์ระดับโลก ด้วยไร่องุ่นกว่า 75 แห่ง ซึ่งผลิตไวน์ออกมามากมายหลายชนิด มีทัวร์ชิมไวน์หลากหลายรูปแบบซึ่งเริ่มต้นเดินทางจากควีนซ์ทาวน์ เปิดโอกาสให้คุณได้เดินเที่ยวชมไร่องุ่น และ ทดลองชิมไวน์รสเลิศไปพร้อมๆกับกับผู้เชี่ยวชาญ

สถานที่ที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นคือทริปท่องเที่ยวในไร่องุ่นที่ Central Otago  องุ่นต้นแรกที่เก่าแก่ที่สุดได้ถูกปลูกขึ้นในแถบนี้ตั้งแต่ปี 2405 โดยชาวฝรั่งเศส ชื่อจอห์น แฟโรด์ เมื่อยุคตื่นทองดันสแตนจบลง ลูกค้าของแฟโรด์ก็หมดไปด้วย ภายหลังการจากไปของเขา การผลิตไวน์เพื่อการค้าก็หยุดลงจนกระทั่งยุค 80 ปัจจุบันมีไร่องุ่นกว่า 70 แห่งในบริเวณนี้ และหลายแห่งก็เปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามาเที่ยวชมรวมทั้งชิมไวน์ด้วย Pinot noirs นับเป็นไวน์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด แต่ chardonnays, sauvignons และ reislings ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน

เพื่อหลีกเลี่ยงหน้าที่ในการเป็น “คนขับรถ” แนะนำให้เดินทางร่วมกับคณะทัวร์จาก วานากา หรือ ควีนส์ทาวน์ แต่หากคุณต้องการเดินทางด้วยตัวคุณเอง ก็สามารถไปรับแผนที่ central Otago wine map (ฟรี) ได้ที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวของควีนส์ทาวน์

คุณสามารถเริ่มต้นการทดสอบรสชาติ ตั้งแต่ชานเมืองควีนส์ทาวน์ บนทางหลวงหมายเลข 6 แต่ อย่าลืมระมัดระวังตัวเอง เพราะถนนข้างหน้าอาจจะเริ่มส่ายหลังจากแวะชิมไวน์ไปหลายแห่ง