หากท่านกำลังมองหาวันหยุดพักผ่อนท่ามกลางชายหาดและทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามตระการตา การได้ศึกษาสัตว์ตามธรรมชาติอย่างใกล้ชิดและเป็นสถานที่ที่มีมรดกทางวัฒนธรรมที่น่าค้นหา ศรีลังกาคือคำตอบของท่าน! ศรีลังกาตั้งอยู่ ณ ใจกลางระหว่างพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอินเดียกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญต่างๆแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นประเทศเล็กๆที่มักจะถูกมองข้ามจากนักเดินทางทั้งหลาย ศรีลังกามีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ไข่มุกแห่งมหาสมุทรอินเดีย” ซึ่งเป็นสมญานามที่ไม่ไกลจากความเป็นจริงเลย แม้ศรีลังกาจะเคยผ่านอดีตที่แสนวุ่นวายมาก็ตาม แต่ด้วยมนต์เสน่ห์ที่มีการสั่งสมมาแต่อดีตของประเทศศรีลังกา ทำให้ศรีลังกากลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆคน เหตุผล 5 ประการดังต่อไปนี้จะทำให้ท่านทราบว่าเหตุใดที่ไม่ควรมองข้ามการมาเยือนประเทศศรีลังกาแห่งนี้
ศรีลังกา จุดหมายปลายทางเพื่อวันหยุดพักผ่อนแห่งภูมิภาคเอเชียที่กำลังจะกลายเป็นที่นิยมในอนาคต
ตั้งแต่ซากปรักหักพังของนครอนุราธปุระ ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของศรีลังกา ไปจนถึงท้องถนนที่เงียบสงบ และวิลล่าสไตล์ดัชแห่งเมืองกอลล์ (Galle) เมืองที่ได้รับอิทธิพลมาจากยุคล่าอาณานิคมที่ยังมีการอนุรักษ์ไว้อย่างดี มีประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรมให้ได้สำรวจอีกมากมาย รวมไปถึงมรดกโลกทั้ง 8 แห่งที่ได้รับการรับรองโดยองค์การยูเนสโกซึ่งตั้งอยู่ติดกับพรมแดนของประเทศอีกด้วย
ชายหาดที่สวยงาม
สัมผัสหาดทรายสีขาวนุ่มๆ ที่ส่องแสงระยิบระยับอยู่รอบๆเกาะศรีลังกา ที่ไม่ได้คราคร่ำไปด้วยผู้คนเหมือนกับชายหาดอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ที่รักการผจญภัยนิยมมาเล่นกีฬาทางน้ำที่นี่และท่านยังสามารถดำน้ำชมความงามใต้ท้องทะเลที่มีความสวยงามในระดับโลก โดยไม่ต้องแย่งชิงกับฝูงชนเหมือนที่อื่นๆอีกด้วย
ชมสัตว์ตามธรรมชาติอย่างใกล้ชิด
สัตว์ที่ท่านจะพบได้ มีตั้งแต่โขลงช้างที่มักจะรวมตัวกันบริเวณลำน้ำไปจนถึงเสือดาว ควายน้ำ จระเข้ และลิง อุทยานแห่งชาติของศรีลังกาเป็นที่ที่ดีที่สุดในการชมสัตว์ที่อาศัยอยู่จริงตามธรรมชาติ นักเดินทางยังสามารถส่องนกชนิดต่างๆได้เพียงแค่มองไปบนท้องฟ้า เนื่องจากศรีลังกาเป็นแหล่งอาศัยของนกที่มีสีสันสดใสหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน จึงทำให้ศรีลังกาเป็นสถานที่ดูนกในอันดับต้นๆของภูมิภาคเอเชียเลยทีเดียว
ความอุดมสมบูรณ์และความเงียบสงบ
หากท่านต้องการสัมผัสป่าเขตร้อนอันอุดมสมบูรณ์ เพียงขึ้นไปยังภูเขาในประเทศศรีลังกา สัมผัสกับอากาศเย็นๆและทิวทัศน์ที่ดูสลับซับซ้อน ท่านจะได้เห็นความเขียวขจีของไร่ชาและป่าฝนที่สวยงามอย่างน่าทึ่ง ทั้งยังเป็นป่าที่เหมาะสำหรับการเดินท่องป่าชมธรรมชาติ ท่านยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการนั่งรถไฟเพื่อชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางได้อีกด้วย
ค่าใช้จ่ายไม่สูงและไม่ต้องผจญภัยกับฝูงชน
สถานที่ท่องเที่ยวที่ศรีลังกายังไม่ถูกนำไปออกสื่อมากนักในปัจจุบันนี้! ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในศรีลังกาไม่สูงมากนัก และไม่ต้องผจญภัยกับกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมากอีกด้วย จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ท่านจะได้ขยายช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนในศรีลังกาได้อย่างเต็มที่
สิ่งที่ควรรู้ก่อนออกเดินทาง
สภาพอากาศ
ศรีลังกามีฤดูมรสุมปีละสองครั้ง โดยจะเกิดในช่วงเดือนตุลาคมถึงมกราคมทางภาคเหนือและภาคตะวันออกของประเทศ และเกิดในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมทางภาคใต้และภาคตะวันตกของประเทศ สภาพภูมิอากาศอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันโดยขึ้นอยู่กับระดับความสูงของแต่ละพื้นที่ เช่น ที่แถบชายฝั่ง Kalutara จะมีอุณหภูมิระหว่าง 25 ถึง 30 องศาเซลเซียส ในขณะที่ Nuwara Eliya ซึ่งอยู่บนภูเขาทางตอนกลางของประเทศศรีลังกา จะมีอุณหภูมิในช่วง -5 ถึง 20 องศาเซลเซียส
วีซ่า
นักท่องเที่ยวจากทุกประเทศยกเว้นจากสิงคโปร์และมัลดีฟส์จำเป็นต้องใช้วีซ่าในการเข้าประเทศศรีลังกา โดยวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวสามารถสมัครได้ทางออนไลน์ วีซ่าที่ได้จะเป็นวีซ่าแบบ Double Entry ซึ่งมีอายุนาน 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ได้รับการอนุมัติ และอนุญาตให้เข้าออกประเทศได้สองครั้งภายในการระยะเวลาสูงสุด 30 วันของการเดินทางแต่ละครั้ง
พื้นที่งดสูบหรี่
ศรีลังกาเป็นประเทศที่ปลอดจากการสูบหรี่อย่างแท้จริง การสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ รถประจำทาง หรือรถไฟ เป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศนี้
เที่ยวชมความสวยงามของชายหาดในประเทศศรีลังกา สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และชมสัตว์ตามธรรมชาติที่น่าทึ่ง ได้ที่ อนันตรา เวเคชั่น คลับ เอสเคปส์ ณ อวานี กาลูทารา รีสอร์ท (Anantara Vacation Club Escapes at AVANI Kalutara Resort) ที่ที่ท่านจะสามารถนั่งชมวิวทิวทัศน์ที่ริมชายฝั่ง และสามารถเดินทางไปยังเมืองกอลล์ (Galle) และโคลอมโบ (Colombo) ได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งจะได้สัมผัสประสบการณ์เกี่ยวกับประเทศศรีลังกาได้อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย
วันหยุดพักผ่อนที่ประเทศศรีลังกาของท่านจะเป็นอย่างไร? ท่านชอบแนววัดโบราณหรือมนต์เสน่ห์ในสไตล์โคโลเนียล? ชอบโต้คลื่นอุ่นๆหรือออกผจญภัยชมสัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติ? ร่วมแชร์ประสบการณ์กับเราได้ทางTwitter, Facebook, Instagram และ Weibo.